ENTERTAINMENT UPDATE » พร้อมย่างเท้าเข้าสู่โลกใบใหม่ กับ 4 เหตุผลที่คุณ ไม่ควรพลาดรับชม (Hellbound)

พร้อมย่างเท้าเข้าสู่โลกใบใหม่ กับ 4 เหตุผลที่คุณ ไม่ควรพลาดรับชม (Hellbound)

18 พฤศจิกายน 2021
600   0

หลังโกยเอาเสียงฮือฮาไปเป็นกระบุงจากการฉายพรีเมียร์เป็นน้ำจิ้มในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชั้นนำ ซีรีส์โดย Netflix เรื่องล่าสุดอย่าง ทัณฑ์นรก (Hellbound) ก็กำลังจะออนแอร์ในสัปดาห์นี้แล้วพร้อมพล็อตสดใหม่ที่บอกเล่าอีกมุมมองของการมอง “โลก” อันเป็นเอกลักษณ์ผ่านสายตาของผู้กำกับ ยอนซังโฮ ผ่านทางเรื่องราวของโลกที่ถูกครอบงำโดยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและการถือกำเนิดขึ้นของกลุ่มลัทธิทางศาสนากลุ่มใหม่ที่ชื่อว่า “กลุ่มสัจธรรมใหม่” ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหลเมื่อมีคนพบเห็นผู้ปฏิบัติการจากนรกที่ปรากฏกายขึ้นเพื่อส่งผู้คนไปลงนรก ก่อนจะไปพบเรื่องราวสุดระทึกใจในวันศุกร์ที่จะมาถึงนี้ เรามี 4 เหตุผลเน้นๆ ว่าทำไมคุณไม่ควรพลาดรับชม ทัณฑ์นรก (Hellbound) มาฝาก!

  1. ที่สุดของความระทึกใจในรูปแบบใหม่

ทัณฑ์นรก (Hellbound) ดัดแปลงจากผลงานเว็บตูนชื่อเดียวกันซึ่งผู้กำกับยอนซังโฮร่วมเขียน เรื่องราวเล่าถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันใจกลางกรุงโซล สร้างความหวาดกลัวและความสับสนอลหม่านให้กับสังคม จนนำไปสู่การแบ่งแยกทางความเชื่อ และเปลี่ยนโลกใบเดิมที่เราอาศัยอยู่นี้ไปตลอดกาล ผู้กำกับยอนซังโฮเล่าถึงไอเดียของการสร้างผู้ปฏิบัติการจากนรกที่ปรากฏกายขึ้นตามประกาศิตและส่งคนบาปลงนรกว่า “ความเชื่อเรื่องนี้มีมาตั้งแต่โบราณเลยครับ คนโบราณเล่ากันว่าทุกร้อยปีหรือสองร้อยปี พวกเขาจะปรากฏกายให้เห็นในรูปของอสุรกายหรือยมทูต ผมพยายามใส่จินตนาการเสริมเข้าไป โดยอยากให้ผู้ชมเห็นรูปลักษณ์ของพวกเขาแล้วจินตนาการและเห็นภาพของนรกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

  1. คอมบิเนชันสุดปังระหว่างผู้กำกับฝีมือเยี่ยมและทัพนักแสดงชั้นนำ

หนึ่งในความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือเคมีที่ลงตัว และชวนให้ติดตาม ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการร่วมงานกันของผู้กำกับมือฉมัง ยอนซังโฮ ที่เคยฝากฝีมือในการหยิบเอาประเด็นความไม่แน่นอนและความอยุติธรรมในสังคมปัจจุบันมาบอกเล่าผ่านผลงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง (Train to Busan) และ ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง (Peninsula) ด้านนักแสดงก็หนาแน่นไปด้วยยอดฝีมือในวงการ ทั้งยูอาอิน, คิมฮยอนจู, พัคจองมิน, วอนจินอา และยังอิกจุน โดยผู้กำกับยอนซังโฮได้กล่าวชมนักแสดงในงานแถลงข่าวว่า “ผมว่าการแสดงบทลึกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก บางครั้งการที่ยิ่งพยายามแสดงออกมาให้ดูลึกลับ กลับยิ่งทำให้ดูออกมาไม่เป็นธรรมชาติ แต่คุณยูอาอินแสดงออกมาได้ราวกับเป็นคนลึกลับจริงๆ ส่วนคุณคิมฮยอนจูนั้น ในฐานะที่เป็นแฟนติดตามผลงานของเธอมานาน ผมคิดว่าเธอสามารถสร้างรากฐานที่ดีให้กับตัวละครมินฮเยจินได้เป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์การแสดงของเธอครับ”

  1. จัดเต็มโปรดักชั่นและงานภาพสุดอลังการ

เพื่อที่จะถ่ายทอดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ผู้ชมไม่เคยพบเห็นมาก่อน ให้ออกมาดูเหมือนประสบการณ์จริง งานภาพและรายละเอียดต่างๆ ก็จะต้องดูสมจริง ซึ่งการใช้เทคนิคการจัดแสงก็มีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการขับเน้นอารมณ์ลึกลับ รุนแรง และลุ้นระทึก ความอลังการและสมจริงของภาพที่ออกมาในทัณฑ์นรก (Hellbound) ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างบนโลกออนไลน์ รวมถึงในงานเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำระดับนานาชาติ ยูอาอิน กล่าวถึงครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ปฏิบัติการจากนรกว่า “ผมคิดว่าแค่ภาพลักษณ์ของมันสามารถทำให้ทัณฑ์นรก (Hellbound) ดูน่าสนใจมากครับ” ขณะที่ยังอิกจุนกล่าวว่า “ผมมีโอกาสได้เห็นครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ปูซาน มันเหนือความคาดหมายและเกินที่ผมจินตนาการไว้มากเลยครับ”

  1. บทซีรีส์ที่สร้างสรรค์ด้วยแมสเสจที่ล้ำลึก

ด้วยตัวเรื่องที่บอกเล่าเรื่องราวของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติซึ่งกลายมาเป็นชนวนที่ทำให้ความขัดแย้งของกลุ่มคนที่มีความเชื่อแตกต่างกันเด่นชัดขึ้น ทัณฑ์นรก (Hellbound) จึงมีจุดเด่นที่แมสเสจที่เข้มข้นล้ำลึก เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ถกเถียงและทบทวนในประเด็นต่างๆ มากมาย พัคจองมิน กล่าวว่า “ทุกคนจะได้ลุ้นไปกับซีรีส์เรื่องนี้ และได้รับแมสเสจที่ล้ำลึกไปพร้อมๆ กัน” ส่วนผู้กำกับยอนซังโฮก็ได้กล่าวไว้ว่า “บทบาทตัวละครที่นักแสดงทุกคนในที่นี้ได้รับล้วนเป็นบทบาทที่พบเจอได้ในชีวิตจริงของเรา ทว่าตัวละครแต่ละตัวมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป ผมคิดว่าผู้ชมบางท่านอาจเห็นด้วยกับความเชื่อนั้น หรือบางคนอาจเห็นต่าง น่าจะสะท้อนให้เห็นความขัดแย้งของความเชื่อ และหวังว่าคงจะเป็นผลงานที่ชวนให้ผู้ชมได้มีโอกาสคิดทบทวนเกี่ยวกับความเชื่อของตัวเองครับ”

แค่นี้ก็เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่ไหวแล้ว! เตรียมดำดิ่งลงไปพร้อมโลกทั้งใบกับ ทัณฑ์นรก (Hellbound) ซีรีส์โดย Netflix ที่จะพาคุณไปพบกับโลกใบใหม่และความโกลาหลวุ่นวายในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนพร้อมกันทั่วโลกวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ที่ Netflix เท่านั้น!