
บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศแผนเชิงกลยุทธ์ เดินหน้าเข้าซื้อหุ้นทั้งหมด ในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด จากบริษัท อรุณ พลัส โมบิลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (AMH) ส่งผลให้เข้าถือหุ้น 100% ใน ‘บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด’ ด้าน CEO ‘ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ’ เร่งต่อยอดยกระดับแผนธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem เดินเกมรุกสู่ธุรกิจ Mobility ยุคใหม่เต็มสูบ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี บนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สู่การผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้ามุ่งมั่นสู่ การขับเคลื่อนในความเป็นผู้นำ Lifestyle Mobility Ecosystem อย่างครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย กรีนเทค จำกัด (MGC-ASIA Greentech) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MGC-ASIA ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด (Neo Mobility Asia) ทั้งนี้ Neo Mobility Asia เดิมเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA Greentech และบริษัท อรุณ พลัส โมบิลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (AMH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท. การซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้ MGC-ASIA Greentech ถือหุ้นใน Neo Mobility Asia เป็น 100% จากเดิมที่ถือหุ้นในสัดส่วน 49.99% ซึ่งถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ EV ได้อย่างเต็มรูปแบบ สู่การสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจในอนาคต เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การถือครองหุ้น 100% แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของระบบนิเวศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ MGC-ASIA ที่กำลังมุ่งสู่การสร้างโลกแห่ง Mobility ที่ครอบคลุมทั้งประสบการณ์ผู้ใช้เทคโนโลยีและความยั่งยืน ตามหลักกลยุทธ์ Lifestyle Mobility Ecosystem และด้วยประสบการณ์ ที่ยาวนานกว่า 25 ปี รวมถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการลงทุนในครั้งนี้
จะเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่โดดเด่น และขับเคลื่อนการเติบโต อย่างยั่งยืนในระยะยาว การเข้าถือหุ้น 100 % ในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ครั้งนี้ อยากให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และคู่ค้า ได้เห็นว่า MGC-ASIA มุ่งมั่นเพื่อยกระดับแผนธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem อย่างมีนัยสำคัญ สู่ผู้นำด้าน ‘ระบบนิเวศแห่งการเดินทางและการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ’ ที่ครอบคลุมทั้ง รถยนต์หรูระดับพรีเมียม, รถยนต์มือสองครบวงจร, บริการรถเช่าระยะสั้นและยาว, ฟลีทองค์กร, Total EV Solution, บริการการเงิน และประกันภัย, และแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจร ภายใต้ 3 แนวทางหลัก
- MGC-ASIA สามารถปรับทิศทางกลยุทธ์ EV และ Mobility ให้มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกัน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีการแข่งขันสูง และมีความคล่องตัวมากขึ้นในการบริหารจัดการ และมีความคล่องตัวสามารถดําเนินงานเชิงกลยุทธ์ได้เต็มรูปแบบ
- สามารถดำเนินการตามบริการของ Neo Mobility ให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักของ MGC-ASIA อาทิ การขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง, บริการหลังการขายครบวงจร, บริการฟลีทองค์กร, การเช่ารถ ระยะยาวสั้น/ยาว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรสำหรับองค์กร พร้อมระบบ Membership หรือ Subscription ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้เกิดการ Synergy อย่างเต็มรูปแบบ และ Margin ที่สูงขึ้น ในระยะยาว
- สอดคล้องกับพันธกิจของ MGC-ASIA ในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ผ่านบริการ Subscription ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ EV Platform, Connected Mobility และ Auto Tech Ecosystem เพื่อให้สอดคล้องและรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
ดร.สัณหวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MGC-ASIA กล่าวทิ้งท้ายว่า MGC-ASIA เตรียมเดินหน้าสู่ธุรกิจ Mobility ในยุคใหม่อย่างเต็มตัว ภายหลังจากการถือหุ้นเต็มในครั้งนี้ ด้วยการเสริม การให้บริการ EV Fleet สำหรับภาครัฐและเอกชนที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น สอดคล้องกับรถ EV ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม EV Subscription และ Car-as-a-Service ขณะเดียวกัน MGC-ASIA ได้วางแผนลงทุนใน Auto Hub Data Center, AI & Connected Car Infrastructure ต่างๆ และสร้างพันธมิตรใหม่กับ Global EV Tech ให้สอดคล้องกับตลาดรถพรีเมียมและตลาดรถยนต์มือสอง และด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ MGC-ASIA ในการเป็นผู้นำแห่ง Mobility Ecosystem ที่ไม่เพียง “ขายรถ” แต่ต้องการ “เชื่อมชีวิตและการเดินทาง” อย่างมีคุณค่า พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว