LIFESTYLE » “NOSE TEA” เปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ “VIOLET” ณ ตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ตอกย้ำกลยุทธ์ “Hyper-Location” ชวนดื่มด่ำประสบการณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล

“NOSE TEA” เปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ “VIOLET” ณ ตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ตอกย้ำกลยุทธ์ “Hyper-Location” ชวนดื่มด่ำประสบการณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล

3 พฤศจิกายน 2025
53   0

“NOSE TEA” แบรนด์เครื่องดื่มชาชีสสัญชาติไทย ผู้นำเทรนด์ตลาดชาที่มาแรงในขณะนี้ พร้อมแตกไลน์ขยายโมเดลธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ในธีม “NOSE TEA VIOLET” ณ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ตั้งใจนำเสนอคอนเซ็ปต์สีม่วงที่มุ่งสะท้อนในเรื่องของความสำเร็จ พร้อมเปิดตัว 4 เมนู “On the Clouds” หรือเมนูเครื่องดื่มปั่น ที่วางจำหน่ายเฉพาะสาขานี้เท่านั้น

โดย 4 เมนู “On the Clouds” ที่ตอบโจทย์ชาวออฟฟิศ มีส่วนผสมหลักคือ “บลูเบอร์รี” และ “ข้าวเหนียวดำ” ซึ่งถูกจัดเป็นเมนูซูเปอร์ฟู้ดที่ให้พลังงานมาก และเติมเต็มความสดชื่น ได้แก่


Empire Rice & Berry On the Clouds: ข้าวปั่นนุ่มละมุน เติมพลังงานแบบอิ่มสบายท้อง

Empire Berry Milk Tea On the Clouds: ชานมบลูเบอร์รี หอมนัว มีรสเปรี้ยวนิดๆ

Empire Berry Lemon On the Clouds: บลูเบอร์รีเลมอน เปรี้ยวสดชื่น ปลุกพลังสมอง

Empire Rice & Berry Yogurt On the Clouds: ข้าวผสมโยเกิร์ต รสชาติพรีเมียม  “NOSE TEA”

วางกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มยอดขาย จากการต่อยอดความสำเร็จของการขยายโมเดล “Black Signature” สาขา Central Park ที่เน้นการสร้าง Branding และดึงดูดลูกค้าให้เดินทางมายัง Destination Store เพื่อสัมผัสความอร่อย ความแปลกใหม่ด้วยตนเอง อีกทั้งเหตุผลของการมีหลายคอนเซ็ปต์สโตร์ในมุมมองของ “NOSE TEA” นอกจากจะสร้างความแตกต่างแล้ว เรายังอยากสร้างภาพจำจากการวางกลยุทธ์อีกด้วย


ด้านคุณไผ่-กชณิชา ฐิติชนาโชติ Chief Executive Officer เล่าว่า “ลูกค้าหรือใครหลายๆ คนคงกำลังสงสัยว่าทำไมเราถึงเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ๆ ในช่วงนี้ จริงๆ แล้วทั้งหมดคือกลยุทธ์หลักที่เราวางคือ Hyper-Location หรือ การเจาะลึกเฉพาะพื้นที่ เพราะเราเชื่อมั่นว่ายุคสมัยนี้ การยกแบรนด์ไปวางโดยใช้รูปแบบร้านเดียวมันไม่เพียงพออีกต่อไป เราจำเป็นต้องปรับตัวและนำเสนอประสบการณ์ที่สอดคล้องกับบริบทและสภาพแวดล้อมของพื้นที่นั้นๆ ด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราเริ่มรุกสร้างคอนเซ็ปต์สโตร์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยกลยุทธ์นี้ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของแบรนด์ลดลง หรือน่าสนใจน้อยลง กลับกันเรากำลังปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น เติมไอเดียสร้างสรรค์เข้าไป เพื่อให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำประสบการณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล และเฉพาะพื้นที่นั้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ยืนระยะการเติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ”


จากห้องทดลองเรามุ่งสู่ทางออกที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงของลูกค้า หาก “Black Signature” เปรียบเสมือน “ห้องทดลองแห่งรสชาติ (The Flavor Laboratory)” เราจึงต่อยอดด้วยการสร้างนวัตกรรมที่ลึกล้ำ เพื่อเป็น “Destination” ให้ลูกค้าตั้งใจเดินทางมาสาขา “NOSE TEA VIOLET” เพราะโลเคชั่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของชาวออฟฟิศที่ต้องการเติมเต็มความสดชื่น เพื่อเป็นรางวัลให้ชีวิตระหว่างวันที่เร่งรีบ หรือสโลว์ไลฟ์ เพราะเรารู้ดีว่าพฤติกรรมของพวกเขามีช่วงเวลาพักผ่อนสมอง และชาร์ตพลังในแบบที่จำกัด “NOSE TEA” จึงสร้างคอนเซ็ปต์นี้ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่เติมพลัง และสร้างแรงบันดาลใจ (The Power & Inspiration Spot) เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบให้ออกมาสมบูรณ์แบบ


          เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ “NOSE TEA” จึงร่วมกับ “LINE MAN” เปิดให้บริการสั่งล่วงหน้า (Pick&Go) ให้ลูกค้ารับเครื่องดื่มแก้วโปรดได้ทันที ซึ่งสะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency Driven by Technology) เพื่อมอบประสบการณ์ Refresh ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องรอคอย