WHAT'S NEWS » PIAGET เผยโฉม ALTIPLANO ULTIMATE CONCEPT TOURBILLON จารึกบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกา ณ งาน Watches and Wonders 2024

PIAGET เผยโฉม ALTIPLANO ULTIMATE CONCEPT TOURBILLON จารึกบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกา ณ งาน Watches and Wonders 2024

13 เมษายน 2024
121   0

เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญในปี 2024  เมซงเพียเจต์ได้นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ชิ้นเด่น ที่เตรียมยกให้เป็นจารึกบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกา

· 150 ปี นับตั้งแต่งเมซงก่อตั้งขึ้น

· 67 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวกลไกตัวแรกที่สร้างความฮือฮาด้วยความเพรียวบางเป็นพิเศษอย่าง กลไก 9P ในปี 1957     

· 6 ปี หลังจากสร้างสถิติใหม่ด้วยการเปิดตัวเรือนเวลาระบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ในชื่อ Altiplano Ultimate Concept จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากในปี 2018

ปีนี้เมซงเผชิญความท้าทายเพื่อเอาชนะทุกขีดจำกัดอีกครั้ง ด้วยผลลัพธ์แห่งความสำเร็จที่ตราตรึงด้วยรายละเอียดอันสง่างามและความคิดสร้างสรรค์ในมุมมองใหม่ที่แม้ดูเผินๆ นาฬิกาที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ นำเสนอความบาง ที่ 2 มม. เทียบเท่าเรือนเวลารุ่นก่อน แต่ความลับที่ซุกซ่อนในความบางเฉียบที่จำกัด กลับถูกเติมเต็มด้วยความสลับซับซ้อนของฟลายอิ้ง ตูร์บิญอง และนี่คือ Altiplano Ultimate Concept Tourbillon เรือนเวลาที่สะท้อนรากเหง้าแห่งศาสตร์และเทคนิคอันเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันก็เป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่ทรงคุณค่าและภาคภูมิใจของเมซง

Altiplano Ultimate Concept Tourbillon คือ ความขบถและขัดแย้งในตัวเอง อีกทั้งเป็นเรือนเวลาที่ขึ้นชื่อว่าทลายขีดจำกัดในวงการการผลิตนาฬิกาอย่างแท้จริง จุดเริ่มต้นของหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นนับจากนี้

มาในตัวเรือนขนาด 41.5 มม. พร้อมความสามารถกันน้ำได้ลึก 20 เมตร รังสรรค์ด้วยวัสดุที่ถูกพัฒนาให้แข็งและทนทานอย่าง โคบอลต์ผสมอัลลอยด์ ส่งผลให้ตัวเรือนไม่โค้งงอแม้จะมีความบางอย่างสุดขั้วก็ตาม เคลือบด้วยพีวีดีสีน้ำเงิน

แม้เมซงตั้งใจออกแบบมาให้สวมใส่ได้ทุกวัน แต่องค์ประกอบที่ยกระดับให้นาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่นี้ดูไม่ธรรมดาคือ การบรรจุฟลายอิ้ง ตูร์บิญอง เข้าไปในตัวเรือนที่มีความหนาเพียง 2 มม. กล่าวได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางเทคนิคที่ก้าวล้ำจากในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง

เสริมความซิกเนเจอร์ด้วยการสลักข้อความลงบนฝาหลัง หล่อหลอมจิตวิญญานที่ขับเคลื่อนเพียเจต์มาตั้งแต่แรกเริ่มอย่าง “Always do better than necessary” ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเมซง ที่รังสรรค์ชิ้นงานบนพื้นฐานของผู้คน

การช่างคิดช่างประดิษฐ์ การร่วมมือกันของแผนกต่างๆ จิตวิญญาณอันหาญกล้านี้คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความท้าทายของความเพรียวบางจนแทบไม่น่าเชื่อ ที่รอให้ทุกคนมาพิสูจน์พร้อมกัน