อัพเดทเรือนเวลาครึ่งปีหลังกับคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า จาก เพียเจต์ ที่นอกจากจะเก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพแต่ละเรือนยังแฝงศาสตร์ที่เมซงเชี่ยวชาญไว้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น
ศาสตร์แห่งการทำทอง (The Art of Gold)
เพียเจต์ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เมซงที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นเทคนิคเพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่าอย่าง ‘ทองคำ’ ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด ดังลวดลายที่ปรากฏบนสายรัดข้อมือของคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า ที่แบรนด์บ่มเพาะความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ซึ่งแรงบันดาลใจของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ ตลอดจนความมหัศจรรย์อื่นๆ อีกมากมาย
![](https://www.img.in.th/images/be95b3319dce78fb9ff1ca8f5f4f4e73.jpg)
PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45163) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ทำจากไวท์โกลด์ที่ผสานศาสตร์แบบดั้งเดิมอย่าง ‘Palace Décor’ ไว้ทั้งบนสายนาฬิกาและและพื้นหน้าปัด ขณะที่การแสวงหาอัญมณีสีที่เข้ากับเรือนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ถือเป็นอีกความท้ายทายอันดับต้น ๆ ที่เพียเจต์ให้ความสำคัญเช่นกัน และเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด การสำรวจหินสีล้ำค่าจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสีจะตรงกับความต้องการแล้ว ขนาดและคุณภาพระดับสูงก็ต้องอยู่บนมาตรฐานที่เมซงรับรองด้วยเช่นกัน
เพื่อเสริมประกายงามให้ดูเด่นขึ้นอีกขั้น แบรนด์เลือกนำเสนออัญมณีด้วยเทคนิค ‘Serti Descendu’ ในสไตล์แบบโอเพ่นเวิร์ค โดยร้อยเรียงแต่ละเม็ดอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวช่วยเพิ่มทั้งพื้นที่แสงตกกระทบ และยังเผยให้เห็นความงามของอัญมณีเม็ดใหญ่ได้ชัดเจนกว่าการฝังลงไปในเนื้อทองแบบที่ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน
![](https://www.img.in.th/images/6c7dbbd8f1f66d3f07a0c694ecafc0a6.jpg)
PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45363) กับขอบตัวเรือนประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินบริลเลียนต์คัตรวม 22 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) ที่โอบล้อมหน้าปัดมุกสีขาวไว้อย่างเข้ากัน เข้าคู่สายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ผลิตจำกัดเพียง 88 เรือน
ศิลปะการเล่นแสง (The Art of Light)
![](https://www.img.in.th/images/5d3385f6d261b7b20ac3349032b3b1c2.jpg)
นอกจากความเชี่ยวชาญในการใช้ ‘ทองคำ’ แล้ว เมซงยังหลอมรวมประกายงามอันไร้ที่ติจากอัญมณีและนวัตกรรมทางด้านดีไซน์ ซึ่งล้วนเป็นทักษะชั้นเลิศที่เหล่าช่างนาฬิกาและจิวเวลรี่บ่มเพาะและส่งต่อมากว่า 140 ปี ไว้อีกด้วย อาทิ
![](https://www.img.in.th/images/98778574c422d31300bc07c390cece74.jpg)
PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS ROSE GOLD (Ref.G0A45161)
หนึ่งในเรือนเวลาที่รังสรรค์โดยใช้เทคนิค ‘Serti Descendu’ ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) มาพร้อมสายรัดข้อมือสีแดงเบอร์กันดี ที่ตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของพื้นหน้าปัดมุกได้อย่างลงตัว
ต่อด้วย 3 สุดยอดเรือนเวลาชั้นสูง PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY กับดีไซน์โดดเด่นของหน้าปัดรูปไข่ประดับเพชรระยิบระยับ ที่แต่ละเม็ดถูกฝังอย่างประณีตด้วยเทคนิค Snow Setting ขณะที่สายรัดข้อมือ ขาตัวเรือนและรอบหน้าปัดรายล้อมด้วยอัญมณีทรงมาร์คีส์ ช่วยเสริมภาพรวมให้ดูเก๋แปลกตากว่าดีไซน์ยุคก่อน
![](https://www.img.in.th/images/130609d83ae4a2b22572ce753f7a3644.jpg)
โดยทรงมาร์คีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของเมซง เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสมีประสงค์ให้ช่างฝีมือเจียระไนเพชรทรงใหม่ที่สะท้อนถึงรอยยิ้มงดงามของมาดามอันเป็นที่รักอย่าง ‘Marquise de Pompadour’ ซึ่งปัจจุบันซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อดังกล่าว ยังคงมอบประกายงามได้อย่างแตกต่างและชวนหลงใหลเช่นเคย
- PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY ทั้ง 3 เรือนมาในขนาด 28×23 มิลลิเมตร;
![](https://www.img.in.th/images/ac37c78ac86892cf748a985e49fb0f3f.jpg)
(Ref.G0A45170) ประดับเพชรทั้งตัวเรือน
ทั้งแบบบริลเลียนต์คัต และ ทรงมาร์คีส์ รวมทั้งสิ้น 364 เม็ด
(ราว 12.42 กะรัต)
![](https://www.img.in.th/images/aabc542f8f0518c2845b0a479239407f.jpg)
(Ref.G0A45171) ผสานความงามระหว่างเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงมาร์คีส์
![](https://www.img.in.th/images/6e92710b2ef5273d12ce8dd4cbdee144.jpg)
(Ref.G0A45168) ประดับเพชรรวม 237
เม็ด มาพร้อมสายซาตินหรูสีน้ำเงิน
ศาสตร์แห่งสีสัน (The Art of Colour)
หากพูดถึงเรื่องสี…มนต์เสน่ห์แห่งท้องฟ้าสีครามถือเป็นหนึ่งในโทนซิกเนเจอร์ที่แบรนด์นิยมหยิบมาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้ม ที่ชวนให้ระลึกถึงหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า
ชื่อของ อเวนเจอรีน ‘Aventurine’ มาจากภาษาอิตาลี ‘Avventura’ ซึ่งก็คือ ‘Adventure’ ที่สื่อถึงการค้นพบ อเวนเจอรีนโดยบังเอิญในช่วงศตวรรษที่ 17 ระหว่างกระบวนการผลิตแก้วที่โรงงานบนเกาะมูราโน่ เมืองเวนิส โดยปัจจุบันสีน้ำเงินของอเวนเจอรีน เกิดจากการเติม Copper Oxide ลงไปในแก้วนั่นเอง
- PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS AVENTURINE GLASS ตัวเรือนไวท์โกลด์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้มที่เข้าคู่สายหนังจระเข้สีเดียวกัน;
![](https://www.img.in.th/images/5475269c83ae4b294a45d32c239c357b.jpg)
(Ref.G0A45162) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 63 เม็ด (ราว 1.76 กะรัต
![](https://www.img.in.th/images/0509044763e81fb379405466c27a6178.jpg)
ขณะที่ (Ref.G0A45152) มาในขนาด 26 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 0.87 กะรัต) ทั้ง 2 รุ่นผลิตจำกัดเพียง 300 เรือน
![](https://www.img.in.th/images/824c8f48716b65b8bbfc9e837732d325.jpg)
(Ref.G0A45180) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.80 กะรัต) ด้วยเทคนิค ‘Serti Descendu’ ผลิตจำกัดเพียง 200 เรือน
![](https://www.img.in.th/images/2e725b56997d19c1cfeb6037e1bbde0a.jpg)
ปิดท้ายด้วยความสง่างามแบบที่ใครก็ยากจะลอกเลียนกับ เรือนเวลาชั้นสูงที่มาพร้อมหน้าปัดประดับอัญมณีหายาก อย่าง แบล็คโอปอล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์แห่งสีสันที่ทอประกายนับไม่ถ้วนยามต้องแสง ไม่ว่าจะเป็น สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีแดง โดยอัญมณีล้ำค่านี้พบได้เฉพาะแถบออสเตรเลีย และ เอธิโอเปีย เท่านั้น
![](https://www.img.in.th/images/d8a9a751281716216ef19d4390dc1b86.jpg)
ซึ่งแบล็คโอปอลที่มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19 ขณะที่หินล้ำค่าจากเอธิโอเปียเพิ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณ 15 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ปัจจุบันแบล็คโอปอลที่เมซงนำมาใช้คัดสรรจากแหล่งคุณภาพในออสเตรเลีย โดยเม็ดนี้เก็บรักษาไว้กว่า 5 ปีเพื่อรอประดับบนชิ้นงานที่คู่ควร
![](https://www.img.in.th/images/b8b03e1bc8808b977623fec51fb7e828.jpg)
- Piaget Limelight Gala High Jewellery Black Opal (Ref.G0A45007) โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบล็คโอปอลหายาก ประดับแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัต สีน้ำเงิน รวม 86 เม็ด (ราว 5.51 กะรัต) และแซฟไฟร์ทรงมาร์คีส์ เฉดสีอื่น ๆ อีกกว่า 58 เม็ด (ราว 6.23 กะรัต) ไล่โทนสีจากเหลืองไปส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยทับทิม 14 เม็ดงาม ที่เสริมให้ผลงานชิ้นนี้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
![](https://www.img.in.th/images/840113e8fa75f50ac787ddfd5759d3c0.jpg)
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678