WHAT'S NEWS » “ทิสโซต์” (Tissot) จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูจากคอลเลกชั่นระดับตำนาน “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) รูปโฉมใหม่ประจำปี 2023

“ทิสโซต์” (Tissot) จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูจากคอลเลกชั่นระดับตำนาน “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) รูปโฉมใหม่ประจำปี 2023

1 มีนาคม 2023
241   0

  เติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบด้วยนาฬิกาเรือนโปรดที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส เมื่อล่าสุด ซิลเวน ดอลลา (Sylvain Dolla) ประธานบริหารแบรนด์นาฬิกาชื่อดังระดับโลกอย่าง “ทิสโซต์” (Tissot) ได้เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรกเพื่อร่วมงานประกาศเปิดตัวแคมเปญ เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) สุดยิ่งใหญ่ กับการกลับมาอีกครั้งของนาฬิกาดีไซน์คลาสสิกจากคอลเลกชั่นระดับตำนาน “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) ในรูปโฉมใหม่ประจำปี 2023 ที่ออกแบบให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามคลาสสิกเหนือกาลเวลา สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยงานจัดขึ้นที่โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ บริเวณห้องบอลรูม 2 ในค่ำคืนที่ผ่านมา

           โดยในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ พัณณิตา ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ณพสรา ไทยวัฒน์, ปวีณลักษณ์ ลิมปิชาติ, ธัญรดี ธรรมมณีวงศ์, พรหม ปาลเดชพงศ์, กรณ์วิภา โชติกเสถียร และอีกมากมาย

           รวมถึงมินิแฟชั่นโชว์จากคู่รักแฟชั่นนิสต้า โทนี่ รากแก่น และแก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล ที่มาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันโดดเด่นผ่านนาฬิกาหรูในครั้งนี้อีกด้วย

“ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1853 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 170 ปี ในเครือเดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นาฬิกาประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ความทันสมัยอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้การยอมรับในแวดวงกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด

ซิลเวน ดอลลา กล่าวถึงวัตถุประสงค์และจุดเด่นของการจัดงานครั้งนี้ว่า “เรายังคงยืนหยัดในแนวคิดของแบรนด์ที่ไม่ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ทิสโซต์ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ได้เสมอ โดยงานครั้งนี้เราจัดขึ้นเพื่อต้องการเปิดตัวแคมเปญการกลับมาของเชอร์แมง เดอ ทูเรลล์ คอลเลกชั่นคลาสสิกชื่อดังของทิสโซต์ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ด้วยดีไซน์ที่งดงามเหนือกาลเวลา พร้อมรูปลักษณ์ใหม่ที่ทางแบรนด์ได้ผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไปเพื่อสะท้อนถึงความทันสมัย โดยแคมเปญนี้ได้เปิดตัวไปทั่วโลกภายใต้แนวคิดของการบอกเล่าเรื่องราวที่มี 2 ด้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็น สีขาวกับสีดำ ผู้ชายกับผู้หญิง ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก คลาสสิกกับทันสมัย สิ่งที่จับต้องได้กับสิ่งที่ดูเกินเอื้อม ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้ถูกนำมาผสมผสานกันเพื่อถ่ายทอดเป็นเชอร์แมง เดอ ทูเรลล์ รูปโฉมใหม่ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง”

สำหรับ “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) รูปโฉมใหม่ประจำปี 2023 นั้นมาพร้อมขนาดใหม่ 39 มม. และ 34 มม. โดยทางแบรนด์ยังคงให้ความสำคัญกับงานดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา และความประณีตในทุกรายละเอียดของการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการขัดเงาตัวเรือนเคลือบซาติน การออกแบบกระจกครอบคริสตัลแซพไฟร์ทรงโดมขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจ

วางอยู่บนหน้าปัดซันเรย์ที่ช่างฝีมือได้ใช้เทคนิคการพ่นทรายและขัดเงาอย่างประณีตเพื่อสร้างพื้นผิวที่สามารถช่วยให้การอ่านค่าเวลาเป็นเรื่องง่าย รวมถึงตำแหน่งบอกชั่วโมงที่ได้รับการออกแบบให้มีความบางโค้งมนและเจียระไนออกมาอย่างพิถีพิถัน โดยเรือนไฮไลท์ของคอลเลกชั่นนี้คือเรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษขนาด 39 มม. ที่มาพร้อมหน้าปัดสีดำ และขนาด 34 มม. ในหน้าปัดสีเงินสำหรับสุภาพสตรี บนตัวเรือนสแตนเลสสตีล ที่สามารถคอมพลีททุกลุคให้ดูดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีเรือนเวลาขนาด 42 มม. สำหรับคนที่ต้องการสวมใส่นาฬิกาไซส์ใหญ่ รวมถึงนาฬิกาอีกหลากหลายดีไซน์ที่มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสสตีลและสีโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดหลากหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็น สีดำ, สีขาว, สีน้ำเงิน, สีเงิน, สีงาช้างเคลือบเงา หรือสีไข่มุก อีกทั้งยังมีสายหนังสีน้ำตาล สีแดง และอีกมากมาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในความคลาสสิก

ด้านฟังก์ชั่นของ “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) นั้นทำงานด้วยกลไก Nivachron Powermatic 80 โฉมใหม่ พร้อมกลไกออโตเมติกคาลิเบอร์ 80 ที่สามารถสำรองพลังงานสูงสุดได้ 80 ชั่วโมง และต้านทานต่อสนามแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถกันน้ำลึกได้ในระดับ 50 เมตร (5ATM)

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้ที่มาร่วมภายในงานต่างก็เผยถึงสไตล์ของนาฬิกาเรือนโปรดและเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาให้สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส เริ่มจาก สาวหน้าคม ปวีณลักษณ์ ลิมปิชาติ เผยว่า “เราเป็นคนข้อมือเล็กก็จะชอบใส่นาฬิกาที่ขนาดหน้าปัดไม่ใหญ่มากพอดีกับข้อมือ ส่วนดีไซน์ก็จะเลือกรูปแบบที่มีความไทม์เลส สามารถหยิบมาแมทช์กับการแต่งตัวได้ง่าย อย่างหน้าปัดทรงกลมบนตัวเรือนสแตนเลสสตีลก็จะเป็นเรือนที่ใส่เป็นประจำ เพราะช่วยคอมพลีทลุคได้ดี แต่ถ้าวันไหนอยากแต่งตัวสไตล์เฟมินีนหน่อยก็จะอาจจะหยิบเรือนที่เป็นสายหนังเฉดสีครีมมาใส่”

ถัดมาที่เวิร์คกิ้งวูแมน ธัญรดี ธรรมมณีวงศ์ เล่าว่า “ปกติเราเป็นคนแต่งตัวสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต้องทำงานด้วย ก็จะเน้นความเรียบโก้ ไม่หวือหวามาก ดังนั้นการเลือกใส่นาฬิกาสักเรือนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นไอเทมที่จะช่วยเติมเต็มลุคของเราให้ดูสมาร์ทขึ้น ซึ่งเราจะชอบเรือนที่เป็นโทนสีเดียวกันทั้งหมดอย่างเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดสีเงิน เป็นเรือนที่มีความคลาสสิก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูโก้หรูภายในตัวด้วย ที่สำคัญสามารถใส่ได้กับทุกโอกาสแน่นอน”

ต่อมาที่หนุ่มมาดเท่ พรหม ปาลเดชพงศ์ เผยว่า “ส่วนตัวมองว่าการเลือกนาฬิกาสักเรือนมันก็เป็นเหมือนการลงทุนให้กับตัวเอง ดังนั้นเราจะชอบนาฬิกาที่สามารถบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ของเราได้ ซึ่งเราชอบแต่งตัวสไตล์เรียบโก้ คลาสสิกหน่อย ก็จะเลือกนาฬิกาที่ดีไซน์มีความคลาสสิก เพราะสามารถหยิบมาแมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย ไม่ว่าจะแต่งตัวลุคไหน ก็เข้ากับทุกลุค โดยเราจะชอบหน้าปัดที่มีขนาดใหญ่หน่อย สาย สแตนเลสสตีลมีความกระชับปรับให้พอดีกับข้อมือได้ หรือถ้าวันไหนอยากเบาข้อมือก็อาจจะหยิบเรือนที่เป็นสายหนังมาใส่บ้าง”

         ปิดท้ายที่คู่รักแฟชั่นนิสต้า โทนี่ รากแก่น และแก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล โดยหนุ่ม โทนี่ รากแก่น เล่าว่า “โดยส่วนตัวเป็นแฟนคลับนาฬิกา Swiss made อยู่แล้ว เพราะขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นเวลาเลือกนาฬิกาส่วนใหญ่ก็จะเลือกที่เป็น Swiss made ส่วนดีไซน์จะเน้นแบบที่คลาสสิกแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความโมเดิร์นด้วย เพื่อที่จะแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวของเราได้ ซึ่งเรือนที่หยิบมาใส่บ่อยๆ เลยก็จะเป็นเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดกลม หน้าปัดดำ เพราะแมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย”

           ด้าน แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล เสริมว่า “ถ้าพูดถึงนาฬิกาเรือนคลาสสิกสำหรับผู้หญิงที่สามารถใส่ได้บ่อยๆ ก็ต้องเป็นเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดสีเงิน เพราะด้วยดีไซน์และโทนสีที่มีความเรียบโก้ ทำให้แมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย ส่วนขนาดนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าวันไหนอยากแต่งตัวยังไง ถ้าวันที่แต่งตัวเท่ๆ ก็จะเลือกใส่เรือนที่หน้าปัดใหญ่หน่อย หรือถ้าวันไหนแต่งตัวสบายๆ ก็จะหยิบเรือนที่ขนาดพอดีข้อมือมาใส่”

พบกับคอลเลกชั่น “เชอร์แมง เดอ ทูเรลล์” (Chemin des Tourelles) ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ ทิสโซต์” (Tissot) ทุกสาขาทั่วประเทศไทย หรือช็อปออนไลน์ทาง Official Website: https://www.tissotwatches.com/th-th, Shopee: https://shp.ee/xip2up6, Lazada: https://s.lazada.co.th/s.efbXj, Central Online: https://www.central.co.th/th/tissot และLine Official Account: @Tissot_TH